วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Chocolate lava เมนูหวานวันวาเลนไทน์


Chocolate lava เมนูหวานวันวาเลนไทน์




มาดูรายละเอียดส่วนผสม สำหรับทำ Chocolate lava
1. แป้งสาลีอเนกซ์ประสงค์ ½ ถ้วย
2. ช็อคโกแลตแท่ง 120 กรัม
3. ไข่ไก่ 4 ฟอง
4. น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
5. เนยเค็ม 120 กรัม
6. เนยขาว 2 ช้อนโต๊ะ (เอาไว้ทาพิมพ์)
7. ไอซ์ซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ (เอาไว้โรยตกแต่ง)
8. น้ำตาลทราย 2 ชต. (เอาไว้เคลือบพิมพ์)
9. พิมพ์ฟรอย แบบถ้วยกลม
10. ไอศกรีมวนิลา 1 ลูก (หรือไอศครีมรสที่ชอบ)



วิธีทำ Chocolate lava ต้อนรับวันวาเลนไทน์
ใส่น้ำลงในหม้อ ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นเตรียมอ่างผสมวางลงบนหม้อ 


ใส่ช็อกโกแลตลงไป รอให้ละลาย

ใส่เนยเค็มลงไป ใช้ตระกร้อคนให้ช็อกโกแลตกับเนยละลายให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที พักไว้ก่อน จากนี้ เราจะไปผสมในส่วนของแป้งและไข่ไก่กันค่ะ


เทไข่ไก่ลงในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลทราย ใช้หัวตระกร้อตีไข่กับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ตีไปเรื่อยๆจนกว่าน้ำตาลทรายละลาย จากนั้นเทแป้งลงไปผสม ทีละน้อย ตีจนเข้ากัน



ค่อยๆผสมช็อกโกแลตลงไปผสมในไข่ทีละน้อย ถ้าใส่ไปทีเดียวเลยเดี๋ยวไข่จะสุกค่ะ คนให้เข้ากัน


พักตัวเค้กไว้ก่อน มาเตรียมในส่วนของตัวพิมพ์กัน ใช้เนยขาวทาให้ทั่วพิมพ์ ใส่น้ำตาลทรายลงในพิมพ์ และกลิ้งน้ำตาลทรายให้ทั่วพิมพ์ค่ะ วิธีนี้จะทำให้เราแกะตัวเค้กช็อกโกแลตออกได้ง่ายค่ะ พูดถึงตัวถ้วยพิมพ์นิดนึงค่ะ เราต้องใช้ถ้วยพิมพ์หรือถ้วยฟรอยที่หนาหน่อยนะคะ เพราะถ้าตัวพิมพ์บางไป เราจะไม่ได้เนื้อเค้กที่เป็น Chocolate lava นะคะ

เตรียมเตาอบ ไว้ที่ 200 องศา จากนั้นเทตัวช็อกโกแลตลงไปในพิมพ์ ประมาณ 3 ส่วน 4 ของพิมพ์ อบประมาณ 10 นาที

เราก็จะได้ Chocolate lava ร้อนๆ หอมกรุ่น ตอนแกะออกจากพิมพ์จะร่อนออกมาง่ายมากเพราะเราเตรียมพิมพ์ไว้อย่างดี

เสิร์ฟพร้อมไอศครีมวนิลา โรยไอซ์ซิ่งลงไป จัดใส่จาน ตกแต่งให้สวยงาม

รสชาติของตัว Chocolate lava

             


เนื้อเค้กได้รสช็อกโกแลตเข้มข้น เมื่อเอาช้อนตัดไปที่เนื้อเค้ก ก็จะเห็นตัว Chocolate lava ไหลเยิ้มออกมา น่าทานที่สุด เวลาทานต้องทานกับไอศครีม จะเข้ากันมากๆ ไม่ยากเลยใช่มั้ยค่ะ สำหรับเมนูหวานๆต้อนรับวันวาเลนไทน์แบบนี้ ลองทำให้คนที่เรารักทานสิค่ะ ต้องเป็นของขวัญชิ้นพิเศษที่คนให้และคนรับ ประทับใจไม่ลืมเลยล่ะคร้า





ขอบคุณที่มาจาก:http://www.xn--z3cba4ajcb9ab7t.com/chocolate-lava-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C.html






วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วันตรุษจีน

          

 ตรุษจีน เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เพราะชาวจีนถือว่า วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ดังนั้นชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง และมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายจีน ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีพิธีเฉลิมฉลองแตกต่างกันไป สำหรับปี 2556 นี้ วันตรุษจีนตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์


           สำหรับที่มาของ วันตรุษจีน นั้น เชื่อกันว่าประเพณีนี้มีมานานกว่าสี่พันปีแล้ว จัดขึ้นเพื่อฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เดิมที่ไม่ได้เรียกว่าเทศกาลตรุษจีน แต่มีชื่อเรียกต่างกันตามยุคสมัย นั่นคือเมื่อ 2100 ปีก่อนคริสตศักราชจะเรียกว่า "ซุ่ย" ซึ่งมีความหมายถึงการโคจรครบหนึ่งรอบของดาวจูปิเตอร์ จนกระทั่งต่อมาในยุค 1000 กว่าปีก่อนคริสตศักราช เทศกาลตรุษจีนจะถูกเรียกว่า "เหนียน" หมายถึงการเก็บเกี่ยวได้ผลอุดมสมบูรณ์นั่นเอง
          
           นอกจากนี้ วันตรุษจีน ยังมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันชุงเจ๋" ซึ่งหมายถึงเทศกาลดูใบไม้ผลิ หรือขึ้นปีเพาะปลูกใหม่ เพราะช่วงก่อนตรุษจีนนั้นตรงกับฤดูหนาว ไม่สามารถทำการเกษตรได้ ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิที่มีอากาศเหมาะสมแก่การเพาะปลูก ชาวจีนจึงสามารถทำนา ทำสวน ได้อีกครั้งหลังจากผ่านพ้นฤดูหนาวมานั่นเอง

            ส่วนการกำหนด วันตรุษจีน นั้น ตามประเพณีเทศกาลตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้ายตามปฏิทินจันทรคติของจีน และถือว่าคืนวันที่ 30 เดือน 12 เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ส่วนวันที่ 1 เดือน 1 คือวันชิวอิก หมายถึงวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ

           การเตรียมงานเพื่อการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนนั้น จะเริ่มขึ้นตั้งแต่หนึ่งเดือนก่อน วันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก) โดยผู้คนจะเริ่มซื้อข้าวของต่างๆ เพื่อประดับตกแต่งบ้านเรือน และเตรียมทำความสะอาดครั้งใหญ่ ตั้งแต่ชั้นบนลงชั้นล่าง เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะเป็นการปัดกวาดสิ่งที่ไม่ดีออกไป ภายในบ้าน ทั้งประตู หน้าต่าง จะประดับประดาไปด้วยสีแดง และกระดาษสีแดงที่มีคำอวยพรให้อายุยืน ร่ำรวย อยู่ดีมีสุข ฯลฯ

          จากนั้นครอบครัวจะร่วมรับประทานอาหารที่ล้วนแต่มีความหมายมงคลทั้งสิ้น เช่น กุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรืองและความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งความโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาหร่าย จะนำความร่ำรวยมาให้ และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร หลังจากทานอาหารค่ำแล้ว ทุกคนในครอบครัวจะนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับ วันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง

          นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของ วันตรุษจีน คือ "อั่งเปา" ซึ่งมีความหมายว่า "กระเป๋าแดง" หรือจะใช้คำว่า "แต๊ะเอีย" ซึ่งมีความหมายว่า "ผูกเอว" จากที่คนสมัยก่อนชอบร้อยเงินเป็นพวงผูกไว้ที่เอว โดยการให้อั่งเปานี้ คู่แต่งงานจะให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว จะออกมาจากบ้านเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ในหมู่ญาติ และด้วยเพื่อนบ้าน ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า "Let bygones be bygones" (อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป)

ขอบคุณที่มาจาก กระปุกดอทคอม